ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ประกาศชื่อธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้ารอบสุดท้ายในกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์

Logo

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2563

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ (Tommy Hilfiger) ซึ่งมี พีวีเอชคอร์ป เป็นเจ้าของ [NYSE: PVH] ประกาศรายชื่อหกทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายในกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ประจำปี 2562 สำหรับการจัดกิจกรรมในปีที่สอง รายการระดับโลกนี้มีเป้าหมายสนับสนุนผู้เริ่มต้นธุรกิจและธุรกิจที่กำลังขยายในการพัฒนาโซลูชั่นที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนเชิงบวกครอบคลุมทุกด้านของธุรกิจแฟชั่น การคัดเลือกทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายคือขั้นถัดไปของการชี้ให้เห็นและสนับสนุนโอกาสด้านนวัตกรรมที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมนี้ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 หกทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายจะเดินทางไปยัง Campus of the Future ของ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนำเสนอแนวคิดธุรกิจของตนให้คณะกรรมการจากธุรกิจทั้งภายในและภายนอกรวมถึงผู้นำด้านความยั่งยืนได้ทราบในกิจกรรมระดับโลก ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ รอบสุดท้าย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200112005011/en/

TOMMY HILFIGER Fashion Frontier Challenge Finalists 2018 (Photo: Business Wire)

ผู้เข้ารอบสุดท้ายการประกวดทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ปี 2561 (รูปภาพ: Business Wire)

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ กล่าวว่า “การได้เห็นกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ในปีที่สองได้รับความสนใจจากผู้สมัครที่ทำงานเพื่อให้อุตสาหกรรมแฟชั่นมีความเป็นหนึ่งเดียวและยั่งยืนมากขึ้นเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก พวกเรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์โซลูชันที่ทันสมัยและชาญฉลาด สำหรับรับมือกับความท้าทายบางประการที่อุตสาหกรรมนี้ต้องเผชิญ และผมตั้งตารอที่จะได้กลับมาเป็นคณะกรรมการตัดสินผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมปีนี้ ความหวังและความตั้งใจต่ออนาคตที่สดใสที่พวกเขามีร่วมกันควรสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคนร่วมมือกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น”

ตลอดกระบวนการต่าง ๆ ที่กินระยะเวลาทั้งหมดสี่เดือน ทีมผู้สมัครกว่า 420 ทีมถูกคัดเลือกให้เหลือเพียงหกทีมสุดท้าย ซึ่งได้รับเชิญให้ร่วมพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขแผนธุรกิจของตนให้ดียิ่งขึ้น โดยรับความสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งมั่น ณ Campus of the Future สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายประกอบด้วย:

  • ธุรกิจจากบังกลาเทศที่กำลังขยายขนาด Apon Wellbeing เปิดร้านจำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันภายในโรงงานในราคายุติธรรม โดยสินค้ามีราคาถูกกว่าที่จำหน่ายภายนอก 10% และมีโปรแกรมสะสมแต้มที่คนงานสามารถสะสมเพื่อนำไปแลกประกันสุขภาพหรือใช้บริการทางสุขภาพได้ฟรี
  • ธุรกิจจากอเมริกาที่กำลังขยายขนาด Stony Creek Colors เป็นผู้จัดหาพืชที่ให้สีครามธรรมชาติกับเกษตรกรผู้ทำไร่ยาสูบขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะสูญเสีรายได้เนื่องจากยอดขายยาสูบที่ตกต่ำ พืชที่ทำรายได้ที่จัดหาให้โดย Stony Creek Colors ช่วยให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงชีพได้
  • ธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติดัชต์ A Beautiful Mess ประกอบธุรกิจพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อช่วยผู้ลี้ภัยให้สามารถเลี้ยงตัวเองและใช้ชีวิตในสังคมได้ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายที่มีความยั่งยืน
  • บริษัทสตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกา Lab 141 ตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดพอดีกับผู้สวมใส่ในปริมาณน้อยโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ ด้วยวิธีการเช่นนี้ Lab 141 ได้ช่วยสนับสนุนและทำให้แนวคิดของแฟชั่นเสื้อผ้า “ที่ไม่ระบุขนาด” เกิดขึ้นจริง
  • บริษัทชุดนอนสัญชาติอินเดียที่กำลังขยายขนาด Sudara พัฒนาทักษะอาชีพและทักษะการเย็บในกลุ่มผู้หญิงที่หนีจากหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกค้ามนุษย์ในธุรกิจทางเพศ
  • บริษัทจากฝรั่งเศสที่กำลังขยายขนาด Constant & Zoe สร้างสรรค์เสื่อผ้าที่มีความทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กที่มีความพิการ

คณะกรรมการผู้ทรงเกียรติที่ทำหน้าที่ตัดสินในรอบสุดท้าย ประกอบด้วย:

  • Tommy Hilfiger
  • Ankiti Bose ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอจาก Zilingo
  • Noor Tagouri นักข่าว นักรณรงค์ และวิทยากร
  • Daniel Grieder ซีอีโอจาก Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Martijn Hagman ซีเอฟโอจาก Tommy Hilfiger Global และ COO จาก Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Willemijn Verloop ผู้ร่วมก่อตั้ง Social Impact Venture
  • Steven Serneels ซีอีโอและกรรมการบริหาร EVPA
  • Katrin Ley กรรมการผู้จัดการ Fashion for Good

คณะกรรมการผู้ตัดสินจะมอบเงินรางวัลมูลค่า 150,000 ยูโรให้กับทีมผู้ชนะสองทีมเพื่อนำไปเป็นทุนสำหรับข้อเสนอทางธุรกิจ ผู้ชนะยังจะได้รับคำปรึกษาตลอดเวลาหนึ่งปีจาก ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ และผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจาก INSEAD รวมถึงพื้นที่ในโครงการผู้ประกอบการเพื่อสังคม (ISEP) ของ INSEAD นอกจากนี้ยังมีรางวัลเงินสดเพิ่มเติมมูลค่า 10,000 ยูโรสำหรับมอบให้กับทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายที่ชนะ “การโหวตผลงานที่ชื่นชอบจากผู้ชม”

วิสัยทัศน์ของ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ คือการได้สร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เปิดกว้างและปิดช่องว่างในด้านต่าง ๆ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความตั้งใจด้านความยั่งยืนในระยะยาวของแบรนด์ โดยเฉพาะด้านการมีส่วนร่วมของคนทุกกลุ่มและการหมุนเวียน ได้ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-sustainability

ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ที่ติดตามแบรนด์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาผ่านสื่อสังคมโดยใช้แฮชแท็ก #TommyHilfiger, #FashionFrontierChallenge, #MakeNewPossible และ @TommyHilfiger

# # #

เกี่ยวกับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชั่นเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ พีวีเอชคอร์ป

พีวีเอช เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น TOMMY HILFIGERCALVIN KLEINVan HeusenIZODARROWSpeedo*, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True & Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์ตนเป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ พีวีเอช มีพนักงานกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศ และมีรายรับต่อปีเกือบ 9.7 พันล้านดอลลาร์ฯ ทั้งหมดนี่คือพลังของ พีวีเอช

*แบรนด์ Speedo ได้รับอนุญาตในอเมริกาเหนือและแคริบเบียนแบบถาวรจาก Speedo International Limited

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200112005011/en/

ข้อมูลติดต่อ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์
Baptiste Blanc
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารและสื่อประเภท Earned Media
อีเมล: Baptiste.Blanc@tommy.com
โทร: +31 62904 2334